สมัครมศว.
กลับมาแล้วหลังจากหายไปนานหลายวัน คือยุ่งนะ
แบบว่าเปิดเทอมวันแรก ม.หกวันแรก อยู่หอใหม่วันแรก อะไรๆ ก็ยังไม่ลงตัว
การได้ไปเจอเพื่อนนี่เป็นอะไรที่ฟินสุดๆ แบบว่าดีใจนะ ฮ่าๆ
แต่มันก็ต้องตระหนักเนาะว่าเวลาสนุกของเราใกล้จะหมดลงเรื่อยๆ แล้ว
ตอนแรกวันอังคารน่ะ ทุกคนลั้นลามากนะ
มีความสุขมาก ยังไม่เครียด แต่เชื่อมั้ยว่าพอเรียนแนะแนวเท่านั้นแหละ
ทุกคนเงียบ... ต่างคนต่างกังวลกับอนาคตของตัวเอง ตอนนั้นเราเองก็เครียดเหมือนกัน
คิดแล้วก็แบบ เฮ้อ อยากมีที่เรียนจัง
ตกเย็นเราก็ไปกรอกใบสมัครของมศว.
เราสมัครสอบเศรษฐศาสตร์กับบริบาลเภสัช คือตอนแรกจะสอบวิทยาเภสัชนะ
แต่ว่าคิดไปคิดมาแล้วอ่ะ เรายอมรับนะว่าเราชอบแนววิทยามากกว่าแต่มาพิจารณาความสามารถตัวเองและอะไรหลายๆ
อย่างแล้วคิดว่าเรียนบริบาลน่าจะดีกว่า อย่างน้อยก็ได้ช่วยคนโดยตรง
ไม่ได้อะไรนะแต่ว่าถ้าเรียนวิทยาเภสัชแล้วเราไม่ได้หวังแค่ว่าจะไปทำงานในโรงงาน
แต่เราหวังถึงขั้นทำงานในแล็ปและคิดค้นยามาช่วยชีวิตคน
แต่เราคิดว่าโอกาสที่จะทำแบบนั้นมันน้อยมากจนแทบจะติดลบเลย
ก็เลยคิดว่าเพื่อให้ตัวเองได้ช่วยคนเยอะที่สุดเรียนบริบาลดีกว่า ฮ่าๆ
ส่วนเศรษฐศาสตร์สอบห้อยไว้ให้แม่กับพ่อเฉยๆ
ที่จริงพวกท่านก็ไม่ได้บังคับนะ แต่ก็พูดเป็นนัยๆ
ว่าอยากให้เรียนก็เลยคิดว่าสอบไปก็ไม่เสียหาย คงไม่ติดหรอกมั้ง...
คงสู้เด็กสายศิลป์ที่เตรียมมาทางนี้จริงๆ ไม่ได้หรอก J
วันนี้แวะไปโอนเงินมาแล้ว ทุกอย่างเสร็จสิ้นแล้วสำหรับการสมัครสอบมศว.
เหลือเพียงอย่างเดียวก็คือไปสอบ ฮ่าๆ ถ้าสอบติดมาก็จะมีงานอีกเพียบ
แต่ถ้าสอบติดแล้วการเตรียมเอกสารพวกนั้นคงไม่น่าปวดหัวเท่าไหร่
ราคาค่าสมัครก็สาขาละหกร้อยบาท เราสมัครสองสาขาก็หนึ่งพันสองร้อยบาท
ยังคิดอยู่เลยว่าจะเอาเงินไปทิ้งฟรีๆ โดยที่สอบไม่ติดหรือเปล่า
เราคงต้องฟิตกว่านี้สินะ J
เฮ้อออออออออออ
เหนื่อยจัง... มันเหนื่อย มันกลัว
มันรู้สึกตื้อๆ ไปหมดเลย...
แย่เนอะ
แต่เพื่ออนาคตที่สดใสแหละนะ J
เห็นเพื่อนเรามีปัญหากันเยอะมาก
เวลาเลือกสาขาชอบมากังวลกับจำนวนรับ อันนี้เราพูดตรงๆ
คือไม่ต้องห่วงหรอกว่าจะติดหรือไม่ติด
ยิ่งของมศว.ยิ่งไม่ต้องห่วงเพราะเป็นสนามสอบแรก
คือมันเหมือนกับว่ามีเพื่อนเราคนนึงอยากสอบคณะ A
แต่ว่าเห็นคณะ B น่าสนใจแต่เวลาสอบคือเวลาเดียวกัน
เลือกได้แค่อันเดียว แต่
B รับเยอะกว่า
เพื่อนถามว่าสอบ B ดีมั้ย โอกาสติดมากกว่านะ รับเยอะกว่านะ
ถ้าใครมีปัญหาแบบนี้ให้ถามตัวเองว่าเราอยากเรียนอะไรกันแน่
มันไม่ใช่ว่าสอบไปแค่ว่าอยากติดหรือเพิ่มโอกาสให้ตัวเองสอบติดนะ
แต่เราต้องถามตัวเองด้วยว่าสอบติดแล้ว ได้เรียนแล้วมันจะไปทำงานแบบไหน
เราพร้อมเหรอที่จะเรียนแบบนั้นทำงานแบบนั้น แล้วคณะ A ล่ะ คณะที่เรามุ่งไว้แต่แรกล่ะ
เราจะยอมแพ้แค่เพราะจำนวนที่เขารับมันน้อยเหรอ อะไรทำนองนี้
ก็ลองถามตัวเองดู
แต่ส่วนใหญ่ถ้าคนที่มีคณะในใจอยู่แล้วก็คงไม่มีปัญหาหรอกมั้ง
บาย
สวัสดี J
ไม่มีความคิดเห็น: